“สิริกัญญา..”
“คะ”
“เจ้าสัญญากับข้าหนาว่า เจ้าจักไม่ตาย”
คำขอดังกล่าวทำให้หญิงสาวต้องชะงัก ด้วยไม่อาจตอบรับหรือให้คำมั่นสัญญาต่อคำขอนี้ได้ แต่กระนั้น ความซาบซึ้งก็บังเกิดขึ้นในใจ เพราะแม้เหตุการณ์ดำเนินมาจนถึงช่วงเวลาสุดท้าย อีกฝ่ายก็ยังแสดงความกังวลห่วงใยกับชีวิตของเธอ
ตลอดเวลาที่ผ่านมา แม้เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ได้แสดงออกอะไรมากเท่าคนเป็นพี่ชาย แต่ภายใต้หน้าตาและท่าทางแข็งกระด้าง ศรีสุวรรณก็ซุกซ่อนไว้ด้วยหัวใจที่อ่อนโยนไม่แพ้คนอื่นเลยเช่นกัน
“ฉันให้สัญญาไม่ได้ อย่าให้ฉันกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ท่านต้องเป็นทุกข์เลยค่ะ ขอจงเข้มแข็งและเดินหน้าต่อไป ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านได้ทำหรือมอบให้ ฉันขอขอบคุณจากใจจริง”
สองแขนของเธอยื่นพาดข้ามหัวไหล่ สิริกัญญาถือโอกาสนั้นโอบกอดเด็กหนุ่ม ผู้ซึ่งกำลังแบกหามร่างของตนเอาไว้ ด้วยความรู้สึกเฉกเดียวกับผู้หญิงคนหนึ่งพึงมีต่อผู้ชายที่แสนดี
..เพื่อปลอบประโลม เพื่อขอบคุณ เพื่ออำลา เพื่อทำให้โมงยามนี้เต็มไปด้วยความหมาย..
“ขอบคุณนะคะ ศรีสุวรรณ”
“..พ่อศรี..” สุ้มเสียงแผ่วเบาดังแว่วอยู่ไม่ไกล “..เรียกข้า เหมือนอย่างที่เจ้าเคยเรียกเถิด”
สิริกัญญาอมยิ้มบาง รู้สึกถึงแรงกระชับมั่นจากสองแขนที่รองรับร่างตนเอาไว้ ถือวิสาสะกดหน้าผากลงบนเรือนผมด้านหลังศีรษะของอีกฝ่าย ก่อนเอ่ยเรียกขานด้วยชื่อที่มีไว้สำหรับคนตรงหน้าเท่านั้น
“ขอบคุณ พ่อศรี ..พ่อศรีของฉัน”
ศรีสุวรรณไม่สามารถเอื้อนเอ่ยคำใด ได้แต่ซึมซับความรู้สึกทั้งมวลเอาไว้ แล้วปล่อยให้มันตกตะกอนอยู่ในใจของตนเองอย่างเงียบงัน