ดินสอสีน้ำ
เรื่องสั้น...ดอกฟ้าหมายปองหมาวัด (147 อ่าน)
10 พ.ย. 2565 18:41
ดอกฟ้าหมายปองหมาวัด
โดย : ดินสอสีน้ำ
โลกใบนี้มักมีหลายอย่างทำให้เราแปลกใจ เรื่องราวต่อไปนี้ก็เช่นกัน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ มันสุดมหัศจรรย์พันลึกมากจริง ๆ เธอผู้มีพร้อมทุกอย่าง ความงามไม่ต้องพูดถึง เธอสวยสมกับชื่อของเธอเลยก็ว่าได้ ทุกคนเรียกเธอว่า ฟ้า ลูกสาวมหาเศรษฐี ผู้มั่งมีมั่งคั่งร่ำรวยที่สุดในละแวกนี้ หรือเป็นเพราะเธอมีแล้วทุกอย่าง เรื่องเงินเลยไม่มีความจำเป็นสำหรับเธอ ความรักต่างหากที่เธอต้องการ ฟ้า อาศัยอยู่กับมารดาและญาติ ๆ ในบ้านใหญ่โตบนอาณาเขตเนื้อที่เกือบสองไร่ ล้อมรอบด้วยรั้วกำแพงทั้งสี่ด้านทำจากเหล็กดัดเป็นลวดลายกนกสวยงาม ตามประสาของคนมีอันจะกิน เพราะลำพังรั้วบ้านหลังนี้ ราคาค่าจ้างคุยกันตัวเลขเจ็ดหลัก ก็อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ต้น โลกใบนี้มันแปลกประหลาด ฟ้าแอบหลงรัก เอกภพ พนักงานขายเครื่องกรองน้ำ ตั้งแต่เธอยังวัยกระเตาะจนย่างเข้าสู่วัยสาว โดยมีมารดาของเธอเท่านั้นที่รู้ มารดาของเธอก็แปลกประหลาดไม่ต่างอะไรกับลูกสาว ไม่เคยดุด่าหรือต่อว่าฟ้าเลยแม้สักครั้งเดียว เมื่อทราบว่า ฟ้าแอบหลงรักเอกภพ ผู้ชายที่เป็นแค่คนขายเครื่องกรองน้ำ ได้เงินเป็นเปอร์เซ็นต์จากการขาย หาเช้ากินค่ำ หรือบางวันต้องอดกิน เพราะวันนั้นขายเครื่องกรองน้ำไม่ได้เลย
บ้านของเอกภพ ตั้งอยู่ทางด้านหลังคฤหาสน์ของมหาเศรษฐี ห่างออกไปหนึ่งกิโลเมตร ตัวบ้านถูกสร้างแบบเรียบง่าย ด้วยไม้ไผ่เอามาต่อเรียงกันกั้นเป็นฝาบ้าน ส่วนหลังคามุงด้วยใบจาก พายุมาทีหลังคาเปิดซ่อมไม่ทันต้องนอนปรับทุกข์กับดาวเดือน ถามหาความยุติธรรมอยู่แห่งหนตำบลใด ทำไมถึงใจร้ายกับผู้ชายตาดำ ๆ อย่างเขานัก บนที่ดินเพียงสิบกว่าตารางวา ซึ่งพ่อแม่ทิ้งเป็นมรดกไว้ให้ก่อนตาย เอกภพเป็นลูกโทนจึงอยู่บ้านนี้คนเดียวตั้งแต่นั้นมา เขามักถูกเพื่อน ๆ ล้อว่า “ไอ้หมาวัด” ประจำ เพราะเขาไปขอข้าววัดกินบ่อย ๆ เวลาขายเครื่องกรองน้ำไม่ได้ แต่เขาก็ไม่เคยโกรธเพื่อน ใช้ชีวิตอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวพึงสังวรเสมอ กับคำว่า “ไอ้หมาวัด” มันคือความจริง
เอกภพเคยเป็นเด็กวัดมาก่อน ตื่นตีสี่ตีห้าสะพายถุงย่ามเดินติดสอยห้อยตามพระไปบิณทบาตรทุกเช้า ช่วยเก็บกวาดลานวัด ทำความสะอาดอาศรมให้หลวงลุง พระเณรทุกรูป เพื่อแลกกับอาหารสามมื้อสำหรับเขา และขอเผื่อแผ่ถึงบุพการียามท่านยังมีชีวิต ท่านทั้งสองชรามากจนไม่สามารถออกไปทำงานหาเงินมาเลี้ยงชีพได้แล้ว หน้าที่จัดหาอาหารทุกวันจึงต้องตกเป็นของเขาคนเดียว ในเวลานั้นจะให้คนจบแค่ระดับประถมศึกษาไปทำอะไรได้ นอกจากต้องพึ่งใบบุญวัด อาศัยบารมีหลวงลุง ใช้แรงแลกข้าวพอประทังให้หายหิวในแต่ละวัน และหลับนอนในยามค่ำคืน จนกระทั่งท่านทั้งสองจากไปอย่างสงบ เอกภพจึงขอลาหลวงลุงกลับมาอยู่บ้าน บอกกับตัวเองจะเป็นเด็กวัดจนแก่เฒ่าไม่ได้ ต้องหางานทำ อะไรก็ได้ขอให้เป็นงานสุจริต ไม่เบียดเบียนมนุษย์โลกด้วยกัน เขาทำได้ทุกอย่าง
นั่นคือที่มาของ พนักงานขายเครื่องกรองน้ำ ซึ่งบริษัทแทบไม่ต้องถามหาวุฒิบัตรการศึกษาของเขาเลย อาศัยเพียงแต่มีความอดทน คุยเก่ง สามารถโน้มน้าวให้ชาวบ้านซื้อเครื่องกรองน้ำได้ก็เป็นพอ เอกภพจึงมักแถมการติดตั้งเครื่องฟรีให้ลูกค้า ซึ่งมีทีท่าสนใจแต่ยังลังเล ทำให้ปิดการขายได้บ้างในบางครา
ทุกเช้าและหัวค่ำของทุกวัน เอกภพจะต้องเดินทางลัดเลาะผ่านรั้วคฤหาสน์ เพื่อออกไปทำงาน แล้วกลับมานอนบ้าน หรือเรียกอีกอย่างว่าที่ซุกหัวนอน ก็คงไม่แปลกอะไร
เวลาเดินผ่านรั้วบ้านหลังใหญ่ เอกภพไม่เคยรู้เลยว่า มีสายตาคู่สวยเป็นประกายดุจดั่งดาวระยิบระยับบนท้องฟ้า แอบมองเขาจากด้านในนั้น บ่อยครั้งสายตาของเขาสบตากับดวงตาคู่สวยโดยบังเอิญ เธอเสียเองเป็นฝ่ายขวยเขินม้วนอายรีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่น และแทบทุกครั้งที่ความงดงามของฟ้า มักทำให้เขาต้องหยุดนิ่งยืนแอบมองเธอลอดกำแพงรั้วเหล็กดัด เผลอยิ้มให้กับความสวยของเธอ แต่ก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ เฝ้าบอกตัวเองคงได้แค่มอง ไม่คิดอาจเอื้อมเอาเธอมาครอบครองเป็นของตนเอง ก่อนหันกลับไปมองถนนเบื้องหน้าเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น รีบสาวเท้าเดินหน้าต่อ พร้อมกับเครื่องมือหากินประจำวัน เขาก้มมองมันแล้วคุยกับเครื่องกรองน้ำ “แกอยู่กับฉันมาสามวันแล้วนะ หวังว่าวันนี้คงจะมีใครซื้อแกไปเสียที” ถ้าเครื่องกรองน้ำในมือของเขาสามารถโต้ตอบได้ อาจตอบกลับ “ตอนเย็นอย่าลืมแวะหาหลวงลุงล่ะ”
“พี่เอกเขาหยุดยืนมองมาที่ฟ้าด้วยค่ะแม่” ฟ้าบอกกับมารดาด้วยอาการลิงโลด เธอเห็นแววตาคนที่อยู่นอกรั้วบ้านมองมายังเธอด้วยสายตาชื่นชม
“ก็ลูกแม่สวยนี่จ๊ะ ใครเห็นก็ต้องมองทั้งนั้น” มารดาตอบยิ้มแฉ่งเห็นลูกสาวตัวเองมีความสุข “จริงเหรอคะแม่” ฟ้าฉีกยิ้มกว้างมองชุดกระโปรงยาวสีชมพูของเธออย่างหลงรัก
“จริงสิจ๊ะ ลูกแม่สวยมากจริง ๆ”
“ฟ้าว่าพี่เอกเค้าชอบชุดกระโปรงสีชมพูของฟ้าแน่เลยค่ะแม่”
“อืมม ถ้าสังเกตจากสายตาที่เขามองลูก แม่ว่าใช่นะ”
“ขอบคุณค่ะแม่”
คำตอบของมารดาทำให้ฟ้า ยิ้มละไม มีความสุขได้ทั้งวันอย่างคนอารมณ์ดี ความรัก ช่างมีอานุภาพมหาศาล มองข้ามชนชั้นวรรณะไปอย่างง่ายดาย รักข้ามภพยังเป็นไปได้ นับประสาอะไรกับรักชาตินี้ของเธอกับเอกภพจะจบสวยงามไม่ได้ล่ะ คงจะจริงกับใครหลายคนพูดเอาไว้ว่า เงินตราสามารถซื้อทุกอย่างได้แม้กระทั่งความซื่อสัตย์ ยกเว้น ความรัก ที่เงินกลับกลายเป็นคำหยาบคาย และไม่มีความหมายเลยสักนิดเดียว
ดวงตะวันกำลังคล้อยต่ำหลบอยู่หลังต้นดอกปีป เป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่า พระอาทิตย์หมดหน้าที่ให้ความสว่างสำหรับวันนี้แล้ว ฝูงนกส่งเสียงขับขานร้องเรียกหากันโบยบินกลับคืนสู่รังเพื่อพักผ่อนในยามราตรีอันใกล้ ยังมีสายตาคู่หนึ่งเฝ้ารอคอยใครบางเดินทางกลับบ้านด้วยความกระวนกระวายใจเมื่อเห็นว่า ผิดเวลากว่าทุก ๆ วัน
“แม่คะ จะค่ำแล้วทำไมพี่เอก ยังไม่กลับมาอีกคะแม่ ฟ้าอยากรู้จังพี่เค้าอยู่ไหน ? ทำอะไร”
มารดาหันมามองลูกสาวก่อนเอ่ย “สงสัยรถติดมั้ง หรือไม่ก็กำลังเจรจาหว่านล้อมลูกค้าให้ซื้อเครื่องกรองน้ำอยู่” พอพูดจบประโยค เธอผู้เป็นมารดาก็อดยิ้มไม่ได้ เลยทำให้ปลายฟ้ายิ้มตาม “พี่เอกเค้าขยันจังนะคะแม่”
“อ้าว ตายยากจัง พูดถึงก็มาเลย” มารดาบอกลูกสาว ฟ้ารีบมองตาม เห็นเอกภพเดินเข้ามาในซอยแต่ไกล ฟ้ายิ้มอย่างดีใจ สายตามองบุรุษตรงหน้าด้วยความชื่นชมไม่กะพริบ แม้เห็นเพียงริบหรี่ก็ตาม ฉับพลันจากหัวใจพองโตตื่นเต้นเป็นสุข ก็ต้องเหี่ยวเฉาลง แปรเปลี่ยนเป็นเศร้าหมองในทันที เมื่อเห็น เอกภพไม่ได้กลับมาคนเดียว ฟ้าสะอื้นไห้ คุยกับมารดา
“แม่คะพี่เอกเค้าพาใครมาด้วยก็ไม่รู้ค่ะ”
ฟ้ากับมารดา เฝ้าแอบมองเอกภพอยู่ริมรั้ว เอกภพเหลียวมองสบสายตากับทั้งคู่เข้าพอดี ทว่าเขาไม่สนใจเธอเลยสักนิดเดียว หันกลับมาสนใจยิ้มให้ชบาแทน
“ทำไมพี่เอกต้องทำร้ายฟ้าแบบนี้ด้วยคะ ฟ้าไม่ดีตรงไหน ฟ้าไม่สวยเลยเหรอคะ ถึงไม่อยู่ในสายตาของพี่เค้าเลย” เธอยังคงร่ำไห้ มีมารดาเคียงข้างคอยปลอบด้วยความสงสาร
“ไม่จริงหรอก ลูกสวยมาก สวยที่สุดในสายตาของแม่” มารดาตอบกลับ
“แล้วทำไมพี่เอกเค้าไม่เคยสนใจ ฟ้าเลยคะ” ยังคงร้องไห้อย่างต่อเนื่อง
“บางที พี่เค้าอาจจะ ไม่กล้ามาขอลูกกับแม่และคนในบ้านก็ได้”
“จริงเหรอคะ”
“จริงค่ะ ดูพี่เค้าเป็นคนเจียมเนื้อเจียมตัวมาก ฟ้าบอกแม่เองไม่ใช่เหรอคะว่า ลูกรักพี่เอกเพราะพี่เขาเป็นคนดี รักสัตว์และรักธรรมชาติ ไม่เคยเที่ยวเตร่ ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ชอบช่วยเหลือชาวบ้านในละแวกนี้ ลูกเคยฟังคนอื่นพูดถึงความดีมีน้ำใจ ของพี่เขาเป็นประจำนี่คะ"
“ฟ้าเสียใจค่ะแม่” สะอื้นไห้หนักขึ้น
“แม่รู้นะ ถึงลูกจะเสียใจแต่ลึก ๆ ลูกของแม่ดีใจ ที่เห็นพี่เค้ามีความสุขใช่ไหมคะ ความรักอันบริสุทธิ์ใจนั้น ไม่จำเป็นต้องได้เค้ามาครอบครอง หรือต้องอยู่ร่วมกันเสมอไป เพียงแค่เราเห็นคนที่เรารักมีความสุข เราก็เป็นสุขแล้วจริงไหมคะ แม่เชื่อว่าฟ้าลูกรักของแม่ทำได้ในสักวัน ที่จะเปลี่ยนจากการเสียใจ มาเป็นการแสดงความยินดีแทน” มารดาพยายามเสาะหาถ้อยคำมาปลอบลูกสาวให้รู้สึกดีขึ้น
“ค่ะแม่ ฟ้ารักแม่ค่ะ”
ความมืดยามค่ำคืนค่อยคืบคลานเข้ามา ฟ้ามองลอดรั้วกำแพงตามหลังเอกภพ สายตาอันเศร้าสร้อย บอกกับตัวเองภายใน ต้องยิ้มแสดงความยินดีเมื่อเห็นคนที่เรารักมีความสุขสิถึงจะถูกต้อง สุดท้ายเธอก็ฝืนยิ้ม เพื่อให้มารดาของเธอสบายใจ
กาลเวลาหมุนเวียนผ่านไปวาระหนึ่ง นานมากพอพิสูจน์ ความรักของฟ้าที่มีต่อเอกภพ ว่าเธอยังคงเป็นเช่นเดิม ไม่เคยลดน้อยลง บ่อยครั้งฟ้าแอบร้องไห้เพราะเอกภพ ฟ้าไม่อยากให้มารดาเห็นหรือเป็นห่วง ฟ้ามักมีน้ำตาทุกครั้ง ที่เห็นเอกภพพาชบากลับมาบ้าน
แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อฟ้าคิดไตร่ตรองอย่างถ้วนถี่ ถึงอยู่ในบ้านใหญ่ต่อก็ไม่มีความสุข เพราะหัวใจของฟ้าได้อยู่กับเอกภพคนที่เธอรักเสียแล้ว ในบ่ายคล้อยวันนั้นเอง เธอตัดสินใจรวบรวมความกล้าพอคุยกับมารดา
“แม่คะ ฟ้าจะหนีออกจากบ้าน เพื่อไปรอพี่เอกนอกรั้วทางเข้าบ้านพี่เอกค่ะ” มารดาฟังแล้วตกใจยิ่งนัก เพราะนั่นหมายถึง เธอกำลังจะสูญเสียลูกสาว ไหนจะภัยอันตรายภายนอกรั้วบ้านอีก ถามเสียงสั่น ขอบตาทั้งสองข้างร้อนผ่าว “ฟ้าแน่ใจเหรอลูก”
“ค่ะแม่ ฟ้ามั่นใจค่ะ ฟ้ารักพี่เอกมาก ให้ฟ้าไปนะคะแม่ นะคะ”ฟ้าน้ำตาเอ่อ อ้อนวอนมารดาสายตาโศกเศร้าแกมร้องขอ
“มันอันตรายนะลูก เกิดมีคนมาลักพาลูกก่อนเจอพี่เขาล่ะ แม่จะทำยังไง ไม่เสียใจมากกว่านี้เหรอ แม่เป็นห่วงลูกนะ”
“ฟ้าก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะแม่ ฟ้ารู้ว่ามันอันตราย หนำซ้ำยังน่าอายมากด้วย และฟ้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าฟ้าทำแบบนี้พี่เอกเขาจะหันมาสนใจฟ้าหรือเปล่า แต่ฟ้าก็อยากเสี่ยงดูสักครั้งค่ะ แม่ให้ฟ้าไปนะคะ” ฟ้าขยับเข้าใกล้มารดามากขึ้น
ผู้เป็นมารดาเห็นความตั้งใจของลูกก็อดสงสารใจอ่อนไม่ได้ “ออกไประวังด้วยนะ แม่คอยดูลูกอยู่ตรงนี้ โชคดีนะลูก ขอให้ลูกของแม่สมหวัง”
“ขอบคุณมากค่ะแม่ ขอบคุณค่ะ” ฟ้าแอบหนีออกจากบ้านเล็ดลอดผ่านช่องลายกนกกำแพงรั้วออกไป โดยมีสายตาของผู้เป็นมารดาเฝ้าดูตลอดเวลา
ฟ้าเริ่มกลัว ๆ กล้า ๆ ภาวนาอย่าเพิ่งมีใครเดินผ่านมาเห็นเธอเลย จนกว่าเอกภพจะกลับ หนึ่งชั่วโมงต่อมา ฟ้าใจเต้นระทึก เหมือนหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เห็นเอกภพเดินมาแต่ไกล ---น่าอายจังพี่เอกจะต่อว่าอะไรเราไหมที่เราทำตัวแบบนี้คิดไปต่าง ๆ นานา จนไม่รู้ว่า เอกภพยืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว เงยหน้าขึ้นตกใจนิ่งเงียบ เอกภพยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ใกล้จนฟ้าได้ยินเสียงหายใจของเขา
“ฮื่อ ออกมาได้ไงเนี่ย สวยมาก สวยที่สุด”เอกภพเหลียวซ้ายแลขวา ไม่เห็นใครเดินผ่านมา จึงมองผ่านลอดรั้วกำแพง พร้อมกับเอ่ยปากขอฟ้ากับมารดาของเธอ และคนในบ้าน ถึงแม้เขามองไม่เห็นใครเลยก็ตาม
“ผมขอนะครับ เธอสวยมาก สวยจนผมหักห้ามใจตัวเองไม่ได้”
เอกภพนึกในใจ ----เป็นไงเป็นกันหมายปองมานานแล้ว ใครว่าเป็นหัวขโมยก็ยอม---- เอื้อมมือหักกิ่งดอกเฟื่องฟ้าที่โผล่ลอดออกมานอกรั้วกำแพงบ้านหลังใหญ่
“ดีจังได้เธอไปปักชำที่บ้าน ฉันอยากได้เธอมานาน แอบมองทุกวัน” พูดและยิ้มให้กับดอกเฟื่องฟ้าในมือฟ้ายิ้มอย่างเป็นสุข โบกมือลามารดา และเหล่าบรรดาญาติพี่น้องที่เฝ้ามองเธออยู่ …ฟ้าเห็นมารดาส่งยิ้มมาให้อย่างเป็นสุขเหมือนกันที่เห็นเธอสมหวัง
จบแล้วค่า
ดินสอสีน้ำ
สมาชิก
ดินสอสีน้ำ
10 พ.ย. 2565 18:47 #1
กว่าจะตั้ง กระทู้นี้ได้ ลองอยู่เป็น 10 รอบ 555
ด้วยความที่ไม่ยอมแพ้ และคิดว่ามันต้องมีวิธีเอาลงได้สิ สุดท้ายก็ได้ตามที่เห็นค่ะ
ขอให้เพื่อน ๆ นักอ่านทุกท่าน มีความสุขกับการอ่านนะคะ :-)
ดินสอสีน้ำ
สมาชิก
Admin_support
11 พ.ย. 2565 08:54 #3
ขอบคุณ คุณดินสอสีน้ำ ที่เอาเรื่องสั้นมาแปะให้เพื่อน ๆ ได้อ่าน ค่า
และขอบคุณ คุณเดือนเอก ที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ
ขอบคุณค่า
Admin_support
ผู้ดูแล