ดินสอสีเลือด
ขอฉันนะ ตับ ม้าม ปอด ไต และ หัวใจ ของคุณ (ตอนที่ 3) (152 อ่าน)
16 ธ.ค. 2565 19:17
ดินสอสีเลือด
สมาชิก
ดินสอสีเลือด
16 ธ.ค. 2565 19:20 #1
.
นาฬิกาตั้งโต๊ะทำงานทรงกลมสีดำตัวหนังสือสีขาว ส่งเสียงดัง ติก ติก เมื่อเข็มยาวหมุนครบรอบมาจบที่เลข 12 ทุกครั้งอย่างสม่ำเสมอไม่มีเกียจคร้านตราบใดที่ก้อนถ่านซ่อนอยู่ด้านหลังไม่หมดแรงไปเสียก่อน ตอนนี้มันกำลังบอกเจ้าของห้องเป็นเวลา 09:20 น. หากแต่บุคคลดังกล่าวหาได้สนใจไม่ออกรำคาญเสียมากกว่า ยังคงให้ความสนใจข้อมูลต่าง ๆ บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้า กดเลื่อนเม้าส์ไปมาปะปนกับการถอนหายใจ บางครั้งก็เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ กอดอกกัดริมฝีปากล่างของตัวเองแน่นจ้องมองจอภาพตรงหน้าราวกับสิ่งนั้นคือผู้ต้องหาที่เขากำลังกดดันให้มันยอมรับสารภาพ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะความคิด ต้องเบนสายตาไปยังร่างสูงใหญ่ในชุดสีกากีน่าเกรงขาม ผิวเข้ม ผมสีดำแซมขาวตัดสั้นติดศีรษะ รูปหน้ายาวมีรอยหยักกลางหน้าผาก ส่งยิ้มทักทายจนเห็นรอยตีนกาแจ่มชัด มีผลให้ ร.ต.ท. วันชัย รีบลุกขึ้นตั้งท่าจะเดินอ้อมโต๊ะมายัง พ.ต.ท. อินทัช หรือ สารวัตรอินตงฉิน ซึ่งเป็นฉายาเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาพร้อมใจกันแต่งตั้ง อีกฝ่ายกลับโบกมือเชิงห้ามพร้อมทำสัญญาณมือให้นั่งลง
“ตามสบายทุกคน ผมมาคุยธุระกับว่าที่ผู้กองวันชัย” ส่งยิ้มทักทายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนภายในห้องทำงานใหญ่ ซึ่งถูกแบ่งกันแยกโต๊ะออกเป็นสัดส่วน โดยไม่ลืมพาดพิงถึงบุคคลดังกล่าว
“ไม่ต้องพิธีว่าที่ผู้กองวันชัย ตามสบาย” ตั้งใจทักทายให้ดูเป็นกันเอง ทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้อีกตัวอยู่ฝั่งตรงข้าม
“สวัสดีครับสารวัตร มาหาผมถึงนี่มีอะไรพิเศษหรือเปล่าครับ ความจริงเรียกผมไปหาที่ห้องง่ายกว่านะครับ”
ยังคงยิ้มติดแก้มไม่ได้สนใจตอบกลับ สบตากับอีกฝ่ายพร้อมตั้งคำถาม“งานเป็นไงบ้าง ผมหมายถึงคดีผ่าหน้าท้อง”
“ยังไม่มีความคืบหน้าครับ หลักฐานได้มาอย่างที่สารวัตรทราบมันดูง่ายเกินไป ผมไม่อยากปิดคดีทั้งที่ยังสงสัยครับ”
“นิสัยคุณอยู่แล้วนี่ ผมชอบคุณก็ตรงนี้แหละ จับผู้ร้ายนะ ไม่ใช่จับแพะ”
“ครับสารวัตร”
“ผมแวะมาบอกคุณเรื่องผู้กำกับ ผมคุยให้แล้วเดินหน้าต่อได้เลย”
“ขอบคุณครับ”
“นี่ผมมอบงานคุณเยอะเกินไปไหม ผมโอนงานนี้ให้คนอื่นได้นะ”
พ.ต.ท. อินทัช กอดอกเอนหลังพิงพนักเก้าอี้เห็นคนตรงหน้าดูเงียบขรึมผิดปกติ อาจเป็นเพราะภาระรับผิดชอบเกี่ยวกับคดีต่าง ๆ ล้นมือ บวกกับได้คดีที่มีท่าทีปิดไม่ลงมาเพิ่มอีกทำให้เครียดจนเกินไป
“ไม่ครับ ผมทำได้” ปฏิเสธทันควัน เพื่อแสดงให้ผู้บังคับบัญชารู้ว่าเขายินดีรับผิดชอบดูแลคดีนี้
“ถ้าไม่ไหวก็บอก ผมไปละมีประชุมกับท่านผู้ใหญ่ต่อ ให้ช่วยอะไรต่อสายตรงหาผมได้ตลอด”
“ขอบคุณครับสารวัตร”
คราวนี้ ร.ต.ท. วันชัย ไม่ทำตามคำห้ามปรามลุกขึ้นเดินก้าวนำหน้าเปิดประตูให้กับ พ.ต.ท. อินทัช ก่อนจะกลับมานั่งโต๊ะ หยิบโทรศัพท์มือถือกดหารายชื่อโทรฯ ออกรอให้เสียงปลายสายขานรับ
“ครับผู้หมวด”
“จ่าอยู่ไหน ผมขอรายงานคนหายเพิ่มเติมภายในวันนี้นะ”
“รับทราบครับ ตอนนี้ผมคุยอยู่กับร้อยเวรหน้าโรงพักครับผม” จ.ส.ต.เกิดตอบกลับเร็วพลัน
จากการเข้าไปตรวจสอบบ้านญาติคนหาย ถึงแม้ไม่ได้อะไรแต่ก็มั่นใจว่าไม่ใช่ชายนิรนามที่ถูกฆ่า และรถยนต์คันมีผ้าคลุมรถปิดอยู่ก็คนละยี่ห้อแถมยังเป็นทะเบียนรถเลขสวยประมูลเพื่อการกุศลเสียอีก แต่ถึงอย่างไรก็ยังคาดหวังอาจมีใครมาแจ้งความคนหายเพิ่มเติม หรืออาจต้องตรวจสอบย้อนหลังไปอีกหนึ่งปีไม่ใช่หนึ่งเดือน
“แล้วเรื่องสองแม่ลูกมีความเคลื่อนไหวบ้างไหมจ่า”
“เจ้าหน้าที่ติดตามรายงานมา ไม่มีอะไรพิรุธเลยครับ”
“ตามต่อไป”
“ครับผู้หมวด”
---ต่อให้แกซ่อนตัวอยู่นรกขุมสุดท้าย ฉันก็จะตามไปขุดเอาแกขึ้นมารับโทษ--- สบถใส่เอกสารหลักฐานตรงหน้าราวกับมันเป็นผู้สมคบคิดร่วมกับฆาตกรปกปิดการจับกุม ก่อนหยิบรายงานข้อมูลบนโต๊ะตรงหน้าเกี่ยวกับ ทะเบียนรถ 01 กก 0201 กรุงเทพมหานคร ยี่ห้อนิสสัน ขึ้นมาอ่าน จากการลงมือสืบสาวราวเรื่องของ ร.ต.ต. ประเสริฐ ทำให้พบความจริงที่ว่า รถยนต์คันนี้ติดป้ายทะเบียนปลอม เป็นรถยนต์ถูกพวกหัวขโมยนำไปขายต่ออีกทอด ส่วนคนรับซื้อ ให้การสารภาพได้รับจ้างเดินทางไปซื้อรถยนต์คันนี้ให้ผู้ว่าจ้างอีกที รู้จักกันผ่านทางเว็บไซด์หางานในอินเทอร์เน็ต ติดต่อมาทางโทรศัพท์ให้เข้าไปซื้อรถยนต์คันดังกล่าวเป็นเงินสด ขับมาส่งตามสถานที่นัดหมาย ผู้ว่าจ้างปิดบังหน้าตา ใส่หมวกแก๊ปสีน้ำตาล สวมแว่นตาสีดำ อาจเป็นผู้หญิงมองเห็นผมยาวถูกมัดรวบไว้ทางด้านหลัง ความสูงทั่วไปตามมาตรฐานคนไทย รูปร่างอวบหนาสวมเสื้อยีนส์สีซีดแขนยาวตัวใหญ่ ไม่ได้คุยด้วยยื่นเงินสดให้ก็ขับรถไปเลย ถามถึงน้ำเสียงทางโทรศัพท์ บอกดูแปลกคล้ายคนดัดเสียงแต่ไม่ได้สนใจ ช่วงนั้นไม่มีเงินเห็นค่าจ้างงามไม่ต้องทำอะไรแค่ไปจ่ายเงินรับรถมาส่งให้ได้ถึงสามหมื่นบาท คนโง่เท่านั้นที่ไม่รับงานนี้ และเป็นไปตามคาดแกะรอยเบอร์โทรศัพท์ต่อก็ถึงทางตัน หมายเลขดังกล่าวเป็นซิมเถื่อนไม่ได้ลงทะเบียนตัวบุคคลเอาไว้
----ฉลาดมากนะแก----คุยกับหลักฐานตรงหน้า ขบกรามแน่นเสียงดังกรอด และนั่นจึงทำให้เขาไม่ปักใจเชื่อว่า คนที่ตายในรถ ตามรายงานต่อไปนี้จะเป็นคนร้ายตัวจริง!
ข้อมูลเอกสารพร้อมภาพถ่าย วันที่ 19 เมษายน 2020 ช่วงเวลาเกิดเหตุ 05:30 – 06:30 น. รถยนต์คันหนึ่งเสียหลักตกลงข้างทางจนทำให้เกิดเพลิงไหม้ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุล่าช้าเข้ามาช่วยไว้ไม่ทัน ทั้งรถและคนขับถูกไฟเผาไหม้วอดไปพร้อมกัน บนถนนเส้นทางหลวง 340 ตรงไปสุพรรณบุรี ตรวจสอบยืนยันแน่ชัดแล้ว เป็นรถยนต์นิสสันสีดำ หมายเลขทะเบียน 01 กก 0201 กรุงเทพมหานคร คันที่ก่อเหตุฆาตกรรมศพผ่าหน้าท้องควักเอาอวัยวะทั้งห้าออกมา ยัดศพใส่ในถุงดำนำไปทิ้งข้างถังขยะริมฟุตพาท ภายหลังเจ้าหน้าที่สันนิษฐานเบื้องต้นว่า ผู้ตายอาจอยู่ในอาการมึนเมาสุรา ขณะขับรถมาด้วยความเร็วจนทำให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ เพราะมีขวดสุราอยู่ในกองเศษซากนั้นด้วย ส่วนผู้ตายยังไม่สามารถระบุตัวตนได้ว่าเป็นใคร ซึ่งในขณะนี้อยู่ในระหว่างตรวจสอบ นั่นจึงทำให้ ร.ต.ท. วันชัย สั่งให้ ส.ต.อ. ชุมพล และ ส.ต.อ. เสียม แทงเรื่องขอเข้าไปมีส่วนร่วมในการตรวจสอบคดีนี้ทันที
หยิบโทรศัพท์มือถือต่อสายถึงผู้ใต้บังคับบัญชาอีกครั้ง
“สิบเอกชุมพลกับสิบเอกเสียม ทำงานได้ดีมาก ผมขอท่านสารวัตรให้คุณสองคนเข้าไปร่วมกับคดีนี้โดยตรงอย่างใกล้ชิดแล้ว ไฟเขียว ตามติดเอาข้อมูลมาให้ผมด่วน”
“รับทราบครับผู้หมวด” ส.ต.อ. ชุมพลตอบกลับผ่านโทรศัพท์สุ้มเสียงแช่มชื่นได้รับคำชมกับผลงานของตัวเองและเพื่อนรวมงาน พร้อมเดินหน้าค้นหาความจริง
ต่อมาเป็นรายงานการตรวจสอบ มีใครรับซื้อขายอวัยวะ ของ ด.ต. ณรงค์ ขณะกำลังเปิดเอกสารอ่านทีละแผ่น เสียงเคาะประตูดังขึ้นเกินสามครั้งรัว ๆ จนทำให้คนอยู่ภายในห้องรีบเงยหน้าหันไปตามเสียง เสมือนเป็นสัญญาณบางอย่างบอกเขาถึงสิ่งที่จะได้เห็นหรือรับรู้ต้องไม่ใช่เรื่องของความโชคดีแน่นอน
“ผู้หมวดครับ สายของเรารายงานมาว่า เห็นชายที่อยู่กับป้าสายใจคนแรกเดินมารอป้ายรถเมล์ และกำลังจะเข้าชาร์จตัวเพื่อมาให้ปากคำ นายคนนั้นก็ต่อสู้วิ่งหลบหนีตำรวจเข้าไปในหมู่บ้านหนึ่งซึ่งไม่มียามเฝ้าครับ” จ.ส.ต. เกิด ยืนอยู่กลางประตู หน้าตาแตกตื่นพูดไวจนลิ้นเกือบพันกัน
“หือ...หนีทำไม ไปดูกันหน่อยจ่า”
เรื่องดังกล่าวทำให้ ร.ต.ท. วันชัยรีบเก็บเอกสารปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ หยิบเสื้อตัวนอกแขนยาวสีน้ำเงินพาดอยู่หลังเบาะเก้าอี้ขึ้นมาสวมเดินออกจากห้อง จ.ส.ต.เกิดผลักประตูออกกว้าง ให้อีกฝ่ายผ่านไปก่อนจึงดึงประตูปิด รีบจ้ำอ้าวก้าวตามแทบไม่ทัน และงานนี้ขอเป็นฝ่ายขับรถเสียเอง เพื่อไปถึงสถานที่เกิดเหตุให้ไวที่สุด
(มีต่อ)
.
ดินสอสีเลือด
สมาชิก
ดินสอสีเลือด
16 ธ.ค. 2565 19:24 #2
.
“ผู้ต้องสงสัยวิ่งหนีเข้าไปในหมู่บ้านนี้ครับ”
ตำรวจนอกเครื่องแบบนายหนึ่งรายงานให้ ร.ต.ท. วันชัย และ จ.ส.ต. เกิด ทราบขณะยืนเฝ้าอยู่หน้าทางเข้าหมู่บ้านรุ่งเรืองซึ่งเลยป้ายรถประจำทางมาประมาณสองร้อยเมตร หมู่บ้านนี้ส่วนใหญ่เป็นทาวน์เฮ้าส์สร้างติด ๆ กันร่วมสามร้อยกว่าหลังคาเรือน มีตรอกซอกซอยมากมายทะลุหากันได้ หากกางแผนผังคงดูไม่ต่างไปจากแผนที่ของถนนเขาวงกตดี ๆ นี่เอง
“แล้วมีใครไปดักทางออกด้านหลังหมู่บ้านหรือยัง”
“มีแล้วครับ”
งานนี้ไม่น่าจะใช่ปิดประตูตีแมวเสียแล้ว เพราะผู้ต้องหาสามารถปีนรั้วกำแพงอิฐหนีไปที่อื่นได้รอบทิศทาง ร.ต.ท. วันชัยลงจากรถเปลี่ยนให้จ่าเกิดขับแทน ไม่ลืมสั่งจ่าเกิดหยิบเสื้อเกราะกันกระสุนขึ้นมาสวมใส่เสียก่อน ป้องกันการปะทะกันซึ่งหน้าเผื่อผู้ต้องสงสัยจะมีมัจจุราชวายร้ายอยู่ในมือ
จ.ส.ต. เกิดขับรถตระเวนไปทุกซอกซอยอย่างช้า ๆ สายตาสอดส่ายหาสิ่งผิดปกติ เห็นตำรวจบางนายเดินออกจากซอยนั้น เข้าซอยนี้ ชาวบ้านบางคนสงสัยออกมาเกาะประตูรั้วมองดูอยู่หน้าบ้าน บางหลังหวาดกลัวรีบปิดประตูหันมาแง้มผ้าม่านส่องผ่านทางหน้าต่าง
ขณะรถของทั้งสองกำลังเลี้ยวเข้าในซอย ก็เห็นบ้านหลังหนึ่งอยู่ริมสุดมีพื้นที่ด้านข้างเหลือสำหรับทำสวนดอกไม้ดูผิดปกติ ได้ยินเสียงสุนัขตัวหนึ่งกำลังเห่าสิ่งแปลกปลอมหลบซ่อนอยู่หลังพุ่มไม้ชิดกำแพง ซึ่งเวลานี้เจ้าของบ้านไม่อยู่มีแต่มันเท่านั้นนอนเฝ้ารอคอยให้นายของมันกลับมา ส่งเสียงเห่า โฮ่ง โฮ่ง พร้อมเสียงครางขู่ในลำคอ จึงทำให้ ร.ต.ท. วันชัย ลงจากรถปีนข้ามรั้วบ้านสูงประมาณเมตรครึ่ง เมื่อมั่นใจเจ้าของบ้านไม่อยู่ และคาดว่าอาจเป็นผู้ต้องสงสัยกำลังหลบหนีกบดานอยู่ที่นี่
หยิบปืนสั้นออกมาจากช่องเก็บปืนข้างเอว วาดปืนมาทางด้านหน้าสองมือจับไว้มั่นเตรียมพร้อมกับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น และอาวุธอันนี้แหละมักทำให้คนร้ายหวาดกลัวยอมจำนนเพียงแค่เห็นมัน สายตาจับจ้องตามเสียงเห่าของสุนัขตัวนั้น ก้าวย่างอย่างระมัดระวังแผ่วเบาเงียบกริบ แต่ช้าไปเสียแล้ว ผู้ต้องสงสัยรู้ทันทีที่ได้ยินเสียงรถยนต์หน้าบ้านดับเครื่อง รีบปีนขึ้นกำแพงหนีไปอีกฝั่งเห็นหลังไว ๆ ร.ต.ท. วันชัยเก็บปืนไล่กวดตามหลังไปติด ๆ เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเอ ไปโผล่ซอยบี วิ่งอ้อมทางด้านหลังทะลุซอยซี เห็นตำรวจยืนดักอยู่ประตูใหญ่หลังหมู่บ้าน วิ่งหน้าตั้งตรงไปสุดซอย ถึงทางตัน ผู้ต้องสงสัยเข้าตาจน หาหนทางให้ตัวเองรอด เห็นชายสูงวัยคนหนึ่งกำลังไขกุญแจประตู้รั้วเข้าบ้าน โผวิ่งเข้าล็อกคอเอาไว้เป็นตัวประกัน
“อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นผมแทงคอลุงทะลุแน่” ชายผู้ต้องสงสัยรีบหันมาเผชิญหน้ากับ ร.ต.ท. วันชัยในมือเปียกชุ่มชื้นแฉะไปด้วยเหงื่อจับปลายปากกาจิ้มไปที่คอหอยตัวประกัน น้ำเสียงสั่น หายใจหอบถี่เต้นเร็วผิดจังหวะ แววตาลุกลี้ลุกลนหวาดระแวง
ด้วยท่าทางของผู้ต้องสงสัย ทำให้รู้ได้ไม่ยาก ชายคนนี้ไม่ใช่ผู้ร้ายมืออาชีพ การเจรจาต่อรองคงไม่ใช่เรื่องยาก
“ใจเย็น ๆ คุณ อย่าทำอะไรลุงเขานะ” กางมือสองข้างออกให้รู้ว่าไม่ได้จับอาวุธ มองหน้าลุงถูกล็อกคอเวลานี้หดซีดราวแผ่นกระดาษขาว ถุงพลาสติกในมือหลายถุงร่วงหล่นลงพื้นกระจัดกระจาย ต้มจืดผัดผักแตกออกจากถุง
“คุณตำรวจไล่ตามจับผมทำไม”
“แล้วคุณทำอะไรผิด ถึงได้วิ่งหนีตำรวจ”
“ผมไม่ได้ทำอะไรผิด”
“งั้นวิ่งหนีทำไม”
“เอ่อ...ผมไม่ได้ขายนะแค่จะกินแต่ยังไม่ทันได้กินเลย”
“คุณหมายถึงอะไร”
“เพิ่งซื้อมาเม็ดเดียวเมื่อเช้าผมเครียด”
“คุณหมายถึงคุณซื้อยาบ้า”
ร.ต.ท. วันชัยรู้ต้นสายปลายเหตุทำไมผู้ต้องสงสัยรายนี้ถึงได้วิ่งหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ซึ่งพยายามจะเข้าไปนำตัวมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจ เกิดกลัวคิดว่าตัวเองจะถูกจับข้อหามียาเสพติดไว้ครอบครองเลยวิ่งหนี เขาแนะนำตัวเองเป็นใคร และรับปากจะไม่มีการจับกุมใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อหามีไว้เพื่อเสพ ตามบทลงโทษยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 แต่มีข้อแม้ ผู้ต้องสงสัยรายนี้ต้องทำการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายเสียก่อน หากผลออกมาไม่มีจริงก็จะปล่อยตัวไป
“ผมจะเชื่อใจคุณตำรวจได้ยังไงว่าจะไม่จับผมเข้าคุก” ตั้งคำถามเสียงสั่น
“ผมไม่ได้ให้คุณเชื่อ แต่ผมกำลังเสนอทางออกให้คุณ และมันมีทางนี้ทางเดียว ถ้าคุณไม่รับเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ผมก็ช่วยคุณไม่ได้แล้ว”
“จะเกิดอะไรขึ้นกับผม” กอดตัวประกันแน่นกว่าเดิม กดหัวปากกาจิ้มผิวเนื้อลำคอลึกลงจนลุงหน้าเหยเกร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“ถ้าคุณทำให้ลุงเลือดออกมาแม้แต่หยดเดียว คุณจะโดนข้อหาเพิ่มอีกกระทง ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องจำคุกสามปี ปรับหกหมื่นบาท” ตอบกลับตีสีหน้าเคร่งขรึม เลือกโทษหนักสุดมาข่มขู่เอาไว้ก่อน เดินหน้าเข้าไปใกล้อีกหนึ่งก้าว
“รับข้อเสนอของผู้หมวดเถอะคุณ ก่อนจะไม่มีโอกาส” จ.ส.ต. เกิด ยืนอยู่ทางด้านหลังที่ตามมาสมทบตอกย้ำให้ทำตาม
“คุณคิดว่าคุณหนีพ้นเหรอ ผมจะนับหนึ่งถึงสามก่อนเปลี่ยนใจ หนึ่ง” จ้องตาอีกฝ่ายตาไม่กะพริบ เดินเข้าหาอีกหนึ่งก้าว เมื่อสังเกตเห็นผู้ต้องสงสัยขยับปลายปากกาขึ้นไม่ให้สัมผัสผิวเนื้อตัวประกัน คลายอ้อมกอดให้หลวมลงเล็กน้อย
“ยะ...อย่าเข้ามานะ”
“สอง” ขยับเท้าไปอีกก้าว ราวสิงโตเดินเข้าหาเหยื่ออย่างใจเย็นเมื่อเห็นว่าเหยื่อของมันไม่มีทางหนีรอด ในขณะที่อีกฝ่ายเขยิบถอยร่นจนหลังติดกำแพงรั้วประตูหน้าบ้าน
“ผะ...ผมยอมแล้ว”
ผู้ต้องสงสัยยอมปล่อยตัวประกันและยกมือไหว้ขอโทษลุงกับสิ่งที่ตนทำ ส่วนลุงเห็นว่าไม่ได้รับความเสียหายอะไร อีกอย่างผู้ชายดังกล่าวไม่ได้ตั้งใจก็ไม่เอาเรื่อง เพียงแต่ขอให้ชดใช้ค่าอาหารถุงเป็นเงินสี่ร้อยบาท จากนั้นขึ้นรถพร้อม ร.ต.ท.วันชัย กลับมายังสถานีตำรวจ
ผลของการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกายเบื้องต้น สำหรับผู้เสพยาบ้าหรือยาไอซ์ ปรากฏไม่พบสารเมทแอมเฟตามีนหรือแอมเฟตามีนแต่อย่างใดในตัวผู้ต้องสงสัย หรือชื่อเรียกตามบัตรประชน นายคมคาย น้อยใหญ่ นั่นจึงทำให้เขาไม่ต้องถูกจับ
และดูจากรูปพรรณสัณฐานตรงกับภาพสเก็ตจากคำให้การของนางสายใจ คนงานกวาดถนน ชายดังกล่าว ตัวสูง รูปร่างหนา ผมสั้นเปิดหน้าผาก จมูกโด่งบานออก ปากบาง ผิวขาวเหลือง จึงนำตัวไปห้องสอบสวนเพื่อสอบถามถึงคดีพบเจอศพในถุงขยะเมื่อสามวันก่อน
การสอบปากคำ ให้การตรงกันกับนางสายใจ วันนั้นนายคมคายรีบออกจากบ้านแต่เช้าเดินมาตามฟุตพาท ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งหวีดร้องลั่นอย่างหวาดกลัวราวกับเห็นผี ก็ทำให้เขารีบตรงเข้าไปหา เธอชี้ไปทางถังขยะบอกมีศพอยู่ในถุงดำ จึงเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ เห็นชัดเจนเป็นศพเลยรีบบอกให้เธอโทรศัพท์แจ้งความ ส่วนเขาไม่มีเวลาอยู่ได้ไม่นาน เพราะต้องรีบไปเตรียมเอกสารที่ออฟฟิศก่อนเริ่มประชุมแปดโมงเช้า ตลอดการสอบสวน ร.ต.ท. วันชัย เฝ้าสังเกตกิริยาท่าทางน้ำเสียงบุคคลดังกล่าวไม่มีส่อเค้ากำลังโกหกแต่อย่างใด หากบุรุษตรงหน้าคือผู้ร้ายนี่คงจะเป็นการโกหกแนบเนียนที่สุด จึงทำได้เพียงเก็บรวบรวมคำให้การพร้อมทั้งขอที่อยู่ที่ทำงาน บ้าน ถ่ายสำเนาบัตรประชนชนและหมายเลขโทรศัพท์เอาไว้กรณีมีข้อสงสัยภายหลังสามารถติดต่อได้สะดวก แล้วปล่อยตัวไป
“อย่าคิดหาซื้อยามาเสพอีกนะคุณ คราวหน้าถ้าผมเจอรับรองได้คุณไม่รอด รู้ไหมยาบ้าซื้อมาเสพมีความผิดตามกฎหมาย ต้องจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 3 ปี หรือปรับเงินตั้งแต่ 10000 บาทถึง 60000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ข่มขู่ทิ้งท้าย
“ครับ ครับ ผมจะไม่ทำอีกเป็นอันขาด ขอบคุณครับ” ยกมือขึ้นไหว้ผงกศีรษะขึ้นลงซ้ำ ๆ หลายครั้ง
“อย่าหาทางออกด้วยวิธีนี้เลยคุณ เครียดมากคุยกับคนอื่นไม่ได้ก็คุยกับพ่อแม่เลย ในโลกนี้ไม่มีใครรักและรับฟังคุณเท่าสองท่านนี้อีกแล้ว พ่อแม่คุณยังอยู่ไหม...ผมหมายถึงยังมีชีวิตหรือเปล่า”
“ยังอยู่ครับคุณตำรวจ”
“ปรึกษาท่านจะได้ช่วยกันแก้ปัญหา ถูกเลิกจ้างไม่ใช่เรื่องใหญ่จนถึงขนาดต้องทำร้ายตัวเอง มันเท่ากับคุณทำร้ายท่านทั้งสองไปด้วย”
“ครับ ผมจะกลับไปปรึกษาท่าน ผมขอบคุณ คุณตำรวจมากครับ” ยกแขนเสื้อข้างหนึ่งขึ้นมาปาดเช็ดน้ำตาลูกผู้ชายที่เขาพยายามให้มันไหลย้อนกลับ แต่ก็อดกลั้นเอาไว้ไม่อยู่เพียงจิตนาการภาพภายในมองเห็นบุพการีทั้งสองร่ำไห้เสียใจตรงหน้าเขาก็บ่อน้ำตาแตก นึกดีใจเกิดเรื่องนี้ขึ้นก่อนที่เขาจะเสพยา คิดเพียงแค่เม็ดเดียวคงไม่เป็นไรถ้ามันทำให้สบายใจ แต่นั่นมันแค่ชั่วคราว แล้วเกิดติดใจกลายเป็นเสพติดเลิกไม่ได้ คงไม่ใช่แค่ตัวเขาที่จะเสียใจ ซ้ำร้ายอาจติดคุกติดตะรางทำให้ประวัติเสียหาย คราวนี้ไปสมัครงานไหนคงไม่มีใครรับ
“ผมกลับไปทำงานได้แล้วใช่ไหมครับคุณตำรวจ”
“ไปได้ ขอบคุณมากสำหรับข้อมูล”
“งั้นผมลาเลยนะครับ สวัสดีครับ”
นายคมคายยกมือขึ้นไหว้ลา ร.ต.ท. วันชัย ภายในห้องสอบสวนที่มีเพียงสองคน ก่อนออกจากสถานีตำรวจ แวะถามร้อยเวรถึงป้ายรถประจำทาง ได้ข้อมูลรีบก้าวเดินจ้ำอ้าว คล้ายกำลังกลัวถูกนำตัวไปสอบสวนซ้ำ โดยไม่ทันสังเกตตนเองกำลังถูกติดตามจากใครคนหนึ่งทางด้านหลังห่างกันเพียงไม่กี่เมตร
….จบตอน….
ดินสอสีเลือด
สมาชิก